อารยธรมมลุ่มแม่น้ำเหลืองหรือแม่น้ำฮวงโฮหรือหวงเหอ

อารยธรรมลุ่มแม่น้ำฮวงโหหรือแม่น้ำเหลือง แบ่งออกเป็น 2 ยุค คือ

1.อารยธรรมจีนสมัยก่อนประวัติศาสตร์

2.อารยธรรมจีนสมัยประวัติศาสตร์

อารยธรรมจีนสมัยก่อนประวัติศาสตร์

จากหลักฐานทางโบราณฯคดีแสดงให้เห็นว่ามีผู้คนอยู่อาศัยบนแผ่นดินจีนมาเป็นเวลานานกว่า 1 ส้านปีแล้ว ดังพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ คือ มนุษย์หยวนโหม่ว อายุประมาณ 1,700,000  ปีมาแล้ว และมนุษย์ปักกิ่ง ที่ถ้ำโจวโข่วเตี้ยน ใกล้กรุงปักกิ่ง(หรือเป่ย์จิง) อายุประมาณ 500,000 ปีมาแล้ว

หลักฐานที่แสดงให้เห็นความเจริญเริ่มแรก คือ วัฒนธรรมหยางเซ่า มีอายุประมาณ 7,000 – 5,000 ปีล่วงมาแล้ว อยู่ทางตอนเหนือของจีน  ผู้คนในวัฒนธรรมหยางเซ่าตั้งถิ่นฐานอยู่ริมแม่น้ำที่มีดินอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การทำการเกษตร เป็นแหล่งอาหารและตั้งชุมชน ดังนั้น พวกเขาจึงมีการเพาะปลูก ทำเครื่องมือจับปลาเครื่องปั้นดินเผาที่มีความสวยงามเป็นแบบลายเขียนสี ตัวอย่างแหล่งวัฒนธรรมหยางเซ่า คือ ชุมชนป้านโพ ที่เมืองซีอาน มณฑลส่านซี มีอายุประมาณ 6,000 ปีล่วงมาแล้ว ช่วงเวลานี้จัดเป็นยุคหินใหม่ของจีน

นอกจากเขตวัฒนฑรรมหยางเซ่าในเวลาเดียวกัน มีคนอีกพวกหนึ่ง เรียกว่า ชาวเหอมู่ตู้ ใกล้เมืองหางโจว ในมณฑลเจ้อเจียง พวกนี้เริ่มปลูกข้าวขึ้นเป็นครั้งแรก ข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของเอเชียคั้งแต่เริ่มแรกจนถึงปัจจุบัน

ความเจริญต่อมา คือ วัฒนธรรมหลงซาน เป็นวัฒนธรรมในยุคโลหะ-สำริด มีอายุประมาณ 5,000 – 4,000 ล่วงมาแล้ว แหล่งสำคัญพบใกล้เมืองเฮิงจื่อใหย่ (Chengziyai) ในมณฑลชานตง ทางตะวันออกของจีน พบว่าอยู่กันเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีกำแพงล้อมรอบ ภายในมีถนน มีการจัดระบบการปกครอง แบ่งอาชีพกันตามความถนัด

นอกจากนี้ ผู้คนในวัฒนธรรมหลงซาน ทำเครื่องปั้นดินเผาแบบรมดำที่สวยงาม รู้จักทำเครื่องมือเครื่องใช้ด้วยสำริด นำหยกมาเป็นเครื่องมือ เช่น ขวานหยก และพบกระดูกสัตว์ที่ถูกรมความร้อน เพื่อทำให้เกิดรอยแตกเพื่อใช้ในการทำนาย ซึ่งเรียกว่า กระดูกทำนาย ดังที่ผู้คนของราชวงศ์ชาง ราชวงศ์แรกของจีนทำกัน ทำให้เกิดความเชื่อว่าผู้คนในวัฒนธรรมหลงซานมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้คนของราชวงศ์ชาง

2.อารยธรรมจีนสมัยประวัติศาสตร์

แบ่งออกเป็น 4 ราชวงศ์

2.1.สมัยราชวงศ์ชาง ( 1,766 – 1,122 ปีก่อนคริสต์ศักราช) สมัยประวัติศาสตร์เริ่มในราชวงศ์ชางเมื่อ ประมาณ 3,700 ปีล่วงมาแล้ว โดยเริ่มมีการประ ดิษฐ์ตัวอักษรแบบรูปภาพบนกระดูกสัตว์และบนกระดองเต่า เป็นต้น ซึ่งเรียกว่า กระดูกมังกรหรืกระดูกทำนาย ตัวอักษรเหล่านี้คือจุดเริ่มต้นของตัวอักษรจีนในปัจจุบัน ในสัยราชวงศ์ชางมีการทำเครื่งใช้ต่างๆ  ด้วยสำริด เช่น ภาชนะบรรจุสุราที่สวยงามรูปแบบต่างๆ กระถางขนาดใหญ่ ซึ่งด้านในของกระถางยังมีตัวอักษร ทำให้ได้ความรู้เกี่ยวกับสมัยนั้นด้วย มีการนับถือเทพเจ้าแห่งการปลูก เรียกว่า ชางตี้ มีการทำปฎิทินบอกฤดูต่างๆ ซึ่งมีความสำคัญต่อการเพาะปลูก การเก็บเกี่ยวพืชผล

2.2 สมัยราชวงศ์โจว (1,122 – 221 ปีก่อนคริสต์ศักราช) มีความเจริญรุ่งเรืองทางปรัชญามาก ที่สำคัญ คือ ลัทธิขงจื๊อหรือลัทธิขงจื่อ ผู้ให้กำเนิด คือ ขงจื๊อหรือขงจื่อ (551 – 479 ปีก่อนคริสต์ศักราช) ซึ่งเน้นในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม การปฎิบัติตนตามฐานะ เช่น เป็นผู้ปกครอง เป็นบิดา เป็นบุตร และปฎิบัติตนตามความสัมพันธ์ทั้ง 5 ได้แก่ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองกับราษฎร ความสัมพันธ์ระหว่างบิดากับบุตร  ความสัมพันธะหว่างสามีกับภรรยา ความสัมพันธ์ระหว่างพี่กับน้อง และความสัมพันธ์ระหว่างมิตรสหาย ปรัชญาอีกสำนักหนึ่ง คือ ลัทธิเต๋า คือ การปฎิบัติตนตามวิถีธรรมชาติ ใช้ชีวิตสันโดษ ปรัชญาทั้งสองสำนักมีอิทธิพลต่อคนจีนและอารยธรรมจีนมาก แม้ในปัจจุบัน ลัทธิขงจื๊อได้รับการสนับสนุนจากรัฐยาลจีนโดยตั้งเป็นสถาบันขงจื๊อขึ้นในประเทศต่างๆ  รวมทั้งในประเทศไทยด้วย ในราชวงศ์โจว จีนสามารถคำนวณได้ว่าปีหนึ่งมี 365  วัน และมีการประดิษฐ์ตะเกียบเพื่อใช้หยิบอาหาร ซึ่งได้กลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของจีน มีการประดิษฐ์เข็มททิศ ซึ่งเป็นประโยชน์มากในการเดินทางโดยเฉพาะการเดินเรือ

2.3 สมัยราชวงศ์ฉิน (221 – 206 ปีก่อนคริสต์ศักราช) เป็นสมัยสั้นๆ เพียง 15 ปี แต่เป็นสมัยสำคัญสมัยหนึ่ง จักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้หรือฉีนสื่อหวงตี้ ปฐมจักรพรรดิ ได้ขยายอำนาจให้จีนมีเขตแดนกว้างใหญ่ เริ่มการปกครองในระบบจักรพรรรดิ (ฮ่องเต้หรือหวงตี้) ซึ่งจีนปกครองในระบอบจักรพรรดิต่อมากว่า 2,000 ปี จนสิ้นสุดเมื่อ ค.ศ. 1912 สมัยนี้ได้มีการสร้างเชื่อมกำแพงเมืงจีนให้เป็นแนวเดียวกัน โดยสร้างต่อจากแนวกำแพงเดิม กำแพงเมืองจีนจึงเป็นเส้นแบ่งระหว่างคนจีนที่อยู่ใต้กำแพงกับพวกป่าเถื่อนที่อยู่เหนือกำแพงเมืองจีน การปกครองที่เข้มงวดและการลงโทษที่รุนแรงทำให้ราชวงศ์ฉินมีอายุสั้น แต่อำนาจของจักรพรรดิฉินสื่อหวงตี้ยังทำให้ผู้คนระลึกถึงพระองค์ได้เมื่อไปเยี่ยมชมสุสานทหารดินเผาที่เมืองซีอาน

2.4 สมัยราชวงศ์ฮั่น (206 ปีก่อนคริสต์ศักราช – ค.ศ. 220) เป็นสมัยที่จีนมีความเจริญรุ่งเรืและคนจีนมีความภาคภูมิใจมากจนเรียกตนเองว่า “ชาวฮั่น” และใช้ต่อๆกันมาจนถึงปัจจุบัน สมัยราชวงศ์ฮั่นมีการนำลัทธิขงจื๊อมาเป็นหลักสำคัญในการปกครอง มีการสอนลัทธิขงจื๊อในวิทยาลัยและมีการสอบไล่คัดเลือกเป็นข้ารารชการ (สอบจอหงวน) ซึ่งดำเนินต่อมาเป็นเวลาร่วม 2,000 ปี ในสมัยราชวงศ์ฮั่น พระพุทธศาสนาจากอินเดียเริ่มเผยแพร่สู่จีน

 

ใส่ความเห็น